วันพฤหัสบดีที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

10 อันดับ สาขาวิชา ปริญญาที่รวยที่สุด


ข้อมูลทั้งหมดในนี้สำรวจจากประเทศสหรัฐอเมริกาในปี 2008 ซึ่งจนถึงปัจจุบันก็ไม่น่าจะเปลี่ยนไปมากนะครับ ไม่ได้สำรวจที่ไทย

อันดับที่ 10 เศรษฐศาสตร์


ปริญญาที่ว่าด้วยเรื่องของเศรษฐกิจ การแบ่งปันทรัพยากร ที่แฝงปรัชญาความคิดเกี่ยวกับความต้องการในผลิตภันฑ์ การลงทุน ไปจนถึงการบริหารระดับประเทศ ยังคงเป็นวิชาที่ต่อยอดในเชิงธุรกิจและบริหารระดับการเมือง 


อันดับที่ 9 วิศวกรรมคอมพิวเตอร์




ว่าด้วยเรื่องของการบริหาร และออกแบบงานด้านคอมพิวเตอร์ทั้งฮาร์ดแวร์ ซอฟท์แวร์ รวมทั้งประสิทธิภาพการทำงานและสื่อสารกันระหว่างระบบ ยังคงเป็นที่ต้องการใช้ยุคทองของ ซิลิกอน วัลลีย์ส ซึ่งในยุคอินเตอร์เน็ทบูม และสมาร์ทโฟนบูม ก็ถือเป็นการบูมของคนสายอาชีพนี้ไปด้วย

อันดับที่ 8 ฟิสิกส์



สาชาวิชาพื้นที่ที่ต่อยอดไปทางด้าน วิศวกรรมศาสตร์และวิทยาศาสตร์ประยุกต์อีกหลายแขนง ว่าด้วยเรื่องของแก่น การเคลื่อนไหวของสิ่งของต่างๆตามธรรมชาติ และแรงต่างๆ (รวมถึงแรงโน้มถ่วง แรงดัน แรงปะทุ) จนไปถึงระดับของอนุภาค สาชาวิชาด้านนี้เน้นไปทางด้านการเป็นอาจารย์สอนและงานวิจัย 


อันดับที่ 7 วิศวกรรมชีวภาพการแพทย์




สาขาวิชาที่กำลังเป็นที่ต้องการ และกลายเป็นวิชาที่ต้องการพื้นฐานระหว่าง วิศวกรรมศาสตร์ แพทย์ศาสตร์ และชีววิทยา ซึ่งมีคนให้จำกัดความไปในเชิงของการนำความรู้มาประยุกต์ใช้เป็น กระบวนการรักษา เครื่องมือรักษาทางการแพทย์ (ในประเทศไทย ยังถือเป็นสาชาวิชาที่ค่อนข้างใหม่มาก) 

อันดับที่ 6 คณิตศาสตร์ประยุกต์



อีกสาขาวิชาพื้นฐานเช่นกัน ซึ่งต่อยอดไปในทางการเงิน สถิติ สมการการเคลื่อนที่อนุภาคของไหล สมการการแพร่ความร้อน แม้กระทั่ง การคำนวณหาเส้นทางการเดินทางที่สั้นที่สุด การแก้โจทย์เกมที่เร็วที่สุด ดังนั้น โดยหลักการแล้ว จบมาเป็นอาจารย์ นักวิเคราะห์ แต่ด้วยการประยุกต์ที่หลากหลายแล้ว ก็สามารถเป็นนักวิเคราะห์เชิงบริหาร หรือเชิงธุรกิจได้เช่นกัน 

อันดับที่ 5 วิศวกรรมนิวเคลียร์




ปริญญาที่เน้นหนักมาในเรื่องที่หลายคนสนใจมากๆคือ พลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งเชื่อว่าเป็นพลังงานบริสุทธิ์ สำหรับมนุษยชาติที่่จะทดแทน พลังงานอื่นๆ ยั่งยืนกว่า ประหยัดกว่า แต่ก็แฝงด้วยอันตรายมหาศาลหากไม่จัดการให้ดีพอ หรือทำไปใช้ในการทำลายล้าง


อันดับที่ 4 วิศวกรรมไฟฟ้า




วิศวกรรมไฟฟ้า จะเกี่ยวข้องกับ ด้านพลังงานไฟฟ้า วงจรอิเลคทรอนิกส์ สัญญาณไฟฟ้า การสื่อสาร แม่เหล็กไฟฟ้า เป็นต้น (บางแห่งก็จะแบ่งแยกกันอย่างชัดเจนไปเลย) ไม่ว่าจะแยกสายไหน ก็เป็นที่ต้องการของตลาดทั้งนั้น ในยุคดิจิตอลเช่นนี้ ทุกอย่างล้วนแต่ต้องใช้ไฟฟ้าในการดำเนินการ (ดำเนินชีวิตด้วยซ้ำ) 

อันดับที่ 3 วิศวกรรมเคมี



วิศวกรรมสายที่เกี่ยวข้องสายการผลิตอุตสาหกรรมหลายอย่าง เช่น โพลีเมอร์ บรรจุภัณฑ์ สารเคมีต่างๆทั้งสำหรับ อุตสาหกรรม การเกษตร อาหาร (แม้แต่ปิโตรเลียมก็ ถือว่าเป็นการคาบเกี่ยวกับพื้นฐานความรู้ของวิศกรรมเคมี) คนที่จบสายนี้สำหรับประเทศไทย เป็นที่ต้องการของสายอุตสาหกรรมการผลิตแถบนิคมอุตสาหกรรม

อันดับที่ 2 วิศวกรรมอวกาศ




วิศวกรรมที่ว่าด้วยเรื่องของอุปกรณ์และพาหนะสำรวจในอวกาศ รวมถึงดาวเทียม ซึ่งแน่นอนว่า สภาพไร้แรงโน้มถ่วง สภาพแรงโน้มถ่วงที่ต่างกัน รังสีที่อันตราย เชื้อเพลิงที่ต้องใช้ เป็นประเด็นที่นมุษยศาสตร์สงสัย ประเทศที่มีความต้องการคนจบสายนี้แน่ๆคือ สหรัฐฯ รัสเซีย และจีน (แต่ปริญญา มีให้เรียน ใน อังกฤษ ออสเตรเลีย และในยุโรปหลายประเทศเช่นกันและสำหรับสายนี้ในประเทศไทยเท่าที่รู้มีอยู่ทั้งหมด 5 สถาบันคือ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ)

อันดับที่ 1 วิศวกรรมปิโตรเลียม



เมื่อพลังงานนิวเคลียร์ยังไม่ได้ถูกยอมรับ 100% พลังงานเดิมยอดฮิตอย่างปิโตรเลียมยังคงเป็นที่ต้องการเรื่อยๆและสูงขึ้นๆ (ตามราคาน้ำมันที่สูงขึ้นเรื่อยๆ) สาขาวิชานี้ว่าด้วยการสกัดสารไฮโดรคาร์บอน เชื้อเพลิงที่พวกเราใช้กันนี้แหละ คนเรียนสาขานี้ จึงกลายเป็นที่ต้องการและการสอบเข้าก็แข่งขันสูงไปด้วยครับ

วันพฤหัสบดีที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

5 อาชีพทำเงินมากที่สุด

5 อาชีพน่าสนใจ ที่จะสร้างรายได้ให้คุณเป็นกอบเป็นกำ เป็นขุมทองที่น่าเมียงมองของมนุษย์เงินเดือน รับรองว่าอ่านจบคุณต้องอยากผละจอบเสียม วางมือจากงานที่ทำเงินแบบอัตคัด แล้วไปสั่งซื้อเครื่องมือขุดมากองไว้ตรงหน้าเลย 
จากประสบการณ์การจัดหางานมานานกว่า 15 ปี บริษัท Adecco Thailand (www.adecco-asia.com/thailand) ซึ่งมีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก ได้ทำการจัดอันดับอาชีพทำเงินล่าสุด โดยแบ่งตามสายอาชีพออกเป็น 5 ประเภท ได้แก่



- การเงินและการบัญชี (Finance & Accounting ) 


อาชีพที่จัดอยู่ในประเภทนี้ ได้แก่ ผู้ตรวจสอบบัญชี (Auditor) นักวิเคราะห์การเงิน (Financial Analyst) พนักงานธนาคาร (Banking) นักบัญชี (Accountant) นักบัญชีต้นทุน (Cost Accountant) ผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี (Tax Specialist) แต่ตำแหน่งที่ฮอตฮิตมีคนอยากจับจองเห็นจะเป็นผู้ตรวจสอบบัญชี มีหน้าที่ดูตัวเลขทางบัญชีและเซ็นเอกสารรับรองการบัญชีของบริษัทต่างๆ 

คุณสมบัติที่จำเป็นสำหรับอาชีพเหล่านี้ คือ จบปริญญาตรี ในสาขาการบัญชีเป็นขั้นต่ำ เกรดเฉลี่ยมากกว่า 2.75 ขึ้นไป เพราะต้องมีความรู้ความสามารถทางบัญชีเป็นอย่างดี และมีความละเอียดรอบคอบสูง ส่วนด้านบุคลิกภาพ ต้องพูดจาฉะฉาน พูดนำเสนอหรืออธิบายได้ดี ที่สำคัญต้องมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า ถ้ามีความรู้ด้านการเงินเข้ามาเพิ่มศักยภาพยิ่งได้เปรียบ เพราะบางครั้งต้องตรวจบัญชีตามสถาบันทางการเงินต่างๆ เช่น ธนาคาร 

ข้อดี คือ สามารถประกอบอาชีพอิสระหรือมีธุรกิจส่วนตัวได้ ยิ่งถ้ามีใบ CPA (Certificate Public Account) จะสามารถเปิดสำนักงานตรวจสอบบัญชีของตัวเองได้ แต่ธรรมชาติของงานอาจไม่เหมาะกับคนขี้เบื่อเพราะใช้เวลาการทำงานในแต่ละครั้งนาน แถมดูเหมือนต้องคอยจับผิดคนอื่น ทั้งในแง่ของตัวเลขและข้อมูลทางธุรกิจ บางครั้งก็ไม่ได้รับความร่วมมือ 

INCOME เริ่มต้นประมาณ 12,000-15,000 บาท ระยะเวลาการทำงาน 4 ปี สามารถปรับเงินเดือนขึ้นไปได้ถึง 5 หมื่นบาท แต่ถ้าทำงานในบริษัทที่เรียกว่าเป็น “BIG 4 ของเมืองไทย” ได้แก่ 1.บริษัท PricewaterhouseCoopers 2.บริษัท Ernst&Young 3.บริษัท Deloitte Touche Tohmatsu 4.KPMG International อัตราเงินเดือนเริ่มต้นประมาณ 15,000 บาทขึ้นไป และมักได้รับความเชื่อมั่นว่า มีความสามารถสูง แถมอนาคตไกล ถ้ามีความสามารถและสอบได้ใบ CPA เร็วโอกาสก้าวหน้าก็เร็วขึ้นตามไปด้วย ทั้งนี้ต้องมีความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ เพราะบริษัท BIG 4 มีเครือข่ายอยู่ทั่วโลก 

Note!!! ตำแหน่งเริ่มต้นคือ Junior-Auditor ระยะเวลาเลื่อนขั้นเป็นตำแหน่ง Semi-Auditor ใช้เวลาประมาณ 1-2 ปี และใช้เวลาเลื่อนขั้นไปตำแหน่ง Senior-Auditor ประมาณ 3 ปี จากตำแหน่ง Senior-Auditor ใช้เวลายาวนานมากกว่าจะเลื่อนขั้นเป็น Assistant Manager, Manager, Assistant Director และตำแหน่งสูงสุดคือ Partnerโดยเฉลี่ยแล้วจากตำแหน่ง Junior-Auditor ใช้เวลาเลื่อนขั้นไปตำแหน่ง Manager อาจใช้เวลาเกือบ 10 ปี


- การขายและการตลาด (Sale & Marketing) 

อาชีพในสายนี้ ได้แก่ Sale Representative (Level 1), Sale Supervisor (Level 2), Sale Manager, Business Development,. Key Account Manager, Area Manager และ Trade Marketing Manager 

คุณสมบัติพื้นฐานคือ จบปริญญาตรีหรือเทียบเท่า สาขาไหนก็ได้ แต่ต้องโดดเด่นด้านบุคลิกภาพ เช่น หน้าตาน่าเข้าหา น่าคุยด้วย ชวนให้ลูกค้าอยากซื้อของ เข้าใจตัวสินค้า ศึกษาและเข้าใจตลาดคู่แข่ง ชอบงานติดต่อผู้คน ไม่กลัวงานหนัก ทำงานภายใต้แรงกดดันได้ดี เพราะการทำงานด้านนี้มีคู่แข่งเยอะ 

ที่สำคัญต้องแข่งกับตัวเอง อัพเดทคู่แข่งอยู่ตลอด ตั้งเป้าหมายให้สูงขึ้นทุกเดือนและต้องทำให้ได้ รวมทั้งต้องคิดแผนการขายไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม แต่ยังมีข้อดีคือ ได้รู้จักคนในวงกว้างตั้งแต่ระดับรากหญ้าจนถึงผู้บริหาร แม้สนามแข่งขันของธุรกิจจัดจำหน่ายมีการแข่งขันอย่างรุนแรง แต่ได้ประสบการณ์ทางด้าน Direct Sales ซึ่งไม่สามารถหาเรียนได้จากสถาบันไหน 

INCOME เริ่มต้นประมาณ 10,000-12,000 บาท สำหรับนิสิตนักศึกษาจบใหม่ ถ้ารวมค่าคอมมิชชั่น ค่าน้ำมัน ฯลฯ รายได้ต่อเดือนรวมประมาณ 17,00-18,000 บาท สามารถเลื่อนขั้นได้เร็ว มีความก้าวหน้าสูง เพราะมีผลงานให้เห็นเป็นรูปธรรม เช่น สะสมแต้มจากยอดขาย เงินเดือนที่ได้มาขึ้นอยู่กับความพยายามของตัวเอง เพราะยิ่งขายสินค้าได้มาก ค่าตอบแทนหรือค่าคอมมิชชั่นก็มากขึ้นตามไปด้วย 


- ที่ปรึกษาทางธุรกิจ (Business Consultant) 

รู้จักกันในนามของ Human Resource Consultant และ Organizaion Developement งานหลักคือ ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาองค์กร และคลุกคลีอยู่กับการบริหารคน รวมถึงจัดการเรื่องยากๆ เช่น สร้างวิสัยทัศน์ ภารกิจ กลยุทธ์ ตลอดจนจัดทำระบบวัดผล ปรับองค์กร และระบบงานบริหารทรัพยากรบุคคล 

ยกตัวอย่างเช่น ถ้า 2 บริษัทจะทำธุรกิจร่วมกันจะต้องมีคนกลาง หรือ Third Party เข้ามาช่วยดูแลว่าจะทำอย่างไรให้บริษัทมีสถานภาพคงที่มากที่สุด ที่ปรึกษาทางธุรกิจก็จะรับบทบาทจัดการเรื่องนี้ไปด้วยกระบวนการที่กล่าวมาข้างต้น บางบริษัทเป็นองค์กรใหญ่และมีพนักงานมาก จะจ้างที่ปรึกษาทางธุรกิจเข้าไปดูแลโดยเฉพาะเลยก็ได้ 

ต้องจบปริญญาตรีเป็นอย่างต่ำ เน้นสาขาทรัพยากรบุคคล หรือบริหาร ที่สำคัญต้องสามารถติดต่อสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี ชอบติดต่อผู้คน มีทักษะในการสื่อสารที่ดี ใฝ่หาความรู้ตลอดเวลา เช่น อัพเดทข้อมูลข่าวสาร รู้ทันการเปลี่ยนแปลงของโลก และสามารถหาเครื่องมือมาใช้ในการพัฒนาองค์กรได้ 

INCOME บางองค์กรเริ่มต้นค่อนข้างสูงประมาณ 30,000-40,000 บาท แต่โดยเฉลี่ยแล้วเงินเดือนสำหรับนิสิตนักศึกษาจบใหม่หรือผู้ไม่มีประสบการณ์ ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป อาชีพนี้มีโอกาสก้าวหน้าสูง เพราะสามารถเป็นที่ปรึกษาได้หลายบริษัทในเวลาเดียวกัน เมื่อทำงานด้านนี้มาได้สักระยะจะมีคนรู้จักนับถือ มีชื่อเสียงมากขึ้น พัฒนาเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ หรือที่เรียกว่า Senior Consultant จนสามารถรับเป็นงานอิสระได้ แต่ต้องมีความรอบรู้ด้านธุรกิจและประสบการณ์สูงพอดี 


- ที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและสารสนเทศ (IT Consultant) 

อาชีพที่จัดอยู่ในประเภทนี้ ได้แก่ IT Engineering, ERP Consultant, Application Specialist, Project Manager, Programmer, Network Engineering และ Softwear Design 

คุณสมบัติ คือ ต้องจบปริญญาตรี ในสาขาคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นอย่างต่ำ มีความสนใจด้านคอมพิวเตอร์เป็นพิเศษ พร้อมที่จะแสวงหาความรู้ใหม่ๆ และฝึกฝนให้คล่องแคล่ว ภาพลักษณ์ของผู้ที่ทำอาชีพนี้มักเป็นคนทันสมัย เพราะรู้เรื่องคอมพิวเตอร์ก่อนใคร แต่ก็มีข้อเสียคือ มีข้อจำกัดด้านอาชีพ เพราะโอกาสเปลี่ยนข้ามสายงานได้น้อย 

Note!!! สายงานคอมพิวเตอร์ธุรกิจ ใช้คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือช่วยทำธุรกิจ เขียนโปรแกรมจัดการฐานข้อมูล วางระบบงานและเทคโนโลยีสารสนเทศ อาจเริ่มต้นจากการเป็นโปรแกรมเมอร์เขียน Application ทางธุรกิจ แล้วไต่เต้าเป็นนักวิเคราะห์ระบบ หรือเป็นที่ปรึกษาทางคอมพิวเตอร์ 

สายงานเทคโนโลยีสารสนเทศ ต้องรอบรู้เรื่องเครือข่ายคอมพิวเตอร์และระบบการจัดการสารสนเทศ เหมาะที่จะเป็นนักวิเคราะห์และสร้างระบบจัดการข้อมูลภายในองค์กร 

สายงานวิทยาการคอมพิวเตอร์ ต้องสามารถเขียนโปรแกรมและโครงสร้างข้อมูล เก่งด้านทฤษฎีการคำนวณซอฟต์แวร์ประเภทต่างๆ และระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อพัฒนาเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ 

สายงานวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ควรมีความรู้ทางเทคนิคมาก ทั้งยังเขียนโปรแกรมและการออกแบบคอมพิวเตอร์ทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ได้ สามารถทำได้เกือบทุกอย่าง ทั้งเป็นโปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ระบบ หรือออกแบบชิพหรือคอมพิวเตอร์แบบใหม่ 

INCOME เริ่มต้นเฉลี่ย 40,000 บาทขึ้นไป แต่ต้องสื่อสารภาษาอังกฤษได้ดี สำหรับนิสิตนักศึกษาจบใหม่สามารถแยกได้เป็น 
1.IT Programmer ตลาดแรงงานกว้าง เริ่มต้นประมาณ 15,000-20,000 บาท แต่ต้องมีความรู้ด้านฐานข้อมูลเป็นอย่างดี 
2.IT System เงินเดือนมากกว่า IT Programmer ประมาณ 3,000-4,000 บาท แต่ต้องดูแลระบบคอมพิวเตอร์ได้ เข้าใจ Network รวมถึงมีความรู้พื้นฐานด้านคอมพิวเตอร์เป็นอย่างดี ถ้าใครก็ตามที่เรียนจบวิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ขอบอกว่าได้เงินดีที่สุด ยิ่งมีความรู้เฉพาะทางเรื่องซอฟต์แวร์อย่าลึกซึ้งเงินเดือนยิ่งสูง 


- การบริการ ( Service ) 

ขอระบุไปเลยว่า Air และ Steward ยังคงไม่ตกอันดับ 

คุณสมบัติที่ต้องการคือ จบปริญญาตรีเป็นอย่างต่ำ สาขาไหนก็ได้ แต่ส่วนใหญ่จบด้านอักษรศาสตร์ ศิลปศาสตร์ รัฐศาสตร์ นิเทศศาสตร์ จะได้เปรียบ นอกจากนี้ต้องมีใจรักการบริการ บุคลิกและอัธยาศัยดี

ล่าสุดข้อมูลเพิ่มเติมด้านคุณสมบัติจากบริษัทการบินไทยคือ โสด สัญชาติไทย อายุ 20-26 ปี สูงไม่น้อยกว่า 160 เซนติเมตร น้ำหนักได้***ส่วนกับความสูง ว่ายน้ำได้ต่อเนื่องไม่น้อยกว่า 50 เมตร และต้องมีท่าฟรีสไตล์ด้วย 

สำหรับสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ต้องการผู้ที่มีคุณสมบัติคล้ายกัน แต่สูงเพียง 156 เซนติเมตร ไม่จำเป็นต้องมีภาษาที่สามหรือว่ายน้ำไม่เป็น ก็สามารถเป็นได้ 

นอกจากนี้ยังต้องผ่านการสอบภาษาอังกฤษที่เรียกว่า “โทอิค” (TOEIC) ได้ไม่น้อยกว่า 600 หรือ “โทเฟล” (TOEFL) ได้คะแนนไม่น้อยกว่า 500 คะแนน (นอกจากสอบข้อเขียนแล้วยังต้องสอบเก็บคะแนนสนทนาภาษาอังกฤษด้วย) ซึ่งสองส่วนนี้สมัครสอบได้ที่สถาบันภาษาเอยูเอ ถนนวิทยุ หรือจะไปสอบไอเอลต์ส (IELTS) กับสถาบันบริติช เคาน์ซิลของอังกฤษก็ได้ 

INCOME เงินเดือนเริ่มต้นของสายการบินไทยเริ่มต้นประมาณ 30,000 บาท สำหรับสายการบินตะวันออกกลาง เช่น EMIRATES หรือ QATAR AIRWAYS อยู่ที่ 40,000-50,000 บาท รวมค่าเดินทางต่อเที่ยวบินเที่ยวละไม่ต่ำกว่า 60,000 บาท รวมแล้วรายได้ต่อเดือนเหยียบแสน ทั้งนี้แตกต่างกันไปตามสายการบินและรอบการเดินทางต่อเดือนว่าได้บินกี่ครั้ง แต่มีโอกาสเลื่อนขั้นน้อย เป็นได้เพียงหัวหน้าแอร์โอสเตสหรือเข้าไปรับผิดชอบงานในเที่ยวบินชั้น First Class เท่านั้น บางสายการบินแอร์โฮสเตสจะเกษียณอายุราว 40-60 ปี ดังนั้น การสมัครเข้าสายการบินไหนต้องสอบถามทางบริษัทก่อน 

ถ้าทำเพื่อความสนุกแบบขุดทองไม่เกิน 5 ปี สามารถย้ายไปทำอาชีพเลขานุการ พนักงานขาย หรือพนักงานโรงแรมได้ เงินเดือนที่ได้มาอาจต้องแลกกับเวลาส่วนตัวที่เหลือน้อยลง จนถึงปัญหาเรื่องสุขภาพ เพราะเวลาพักผ่อนไม่ปกติ ทั้งยังเป็นอาชีพที่ไม่มั่นคง ถ้าทำหลายปีแล้วเลิกอาจไม่มีอาชีพที่เหมาะสมรองรับ เพราะเงินเดือนน้อยกว่าเดิมมากจนถึงขั้นทำใจไม่ได้ 

จาก...คอลัมน์ Career Focus นิตยสารสุดสัปดาห์ ฉบับที่ 570 ปักษ์แรก เดือนพฤศจิกายน 2549

ก้าวสู่อาเซียน






ไม่ว่าจะรายการทีวี ข่าว สื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ พากันพูดถึง AEC ค่อนข้างบ่อยทีเดียว ทว่า AEC คืออะไรและดีอย่างไร? รวมถึงมีอาชีพไหนบ้าง ที่ได้โอกาสทำงานในอาเซียนได้อย่างเสรี วันนี้ Vconnex จะนำมาเล่าให้ฟังคร่าวๆ กันค่ะ
AEC ย่อมมาจากชื่อเต็มๆ ว่า Asean Economics Community เป็นการรวมตัวของประเทศในกลุ่มอาเซียน 10 ประเทศ คือ ไทย พม่า ลาว  เวียดนาม  มาเลเซีย สิงคโปร์  อินโดนีเซีย  ฟิลิปปินส์  กัมพูชา บรูไน เพื่อที่จะให้มีผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจร่วมกัน มีรูปแบบคล้ายๆ กลุ่ม Euro Zone นั่นเอง โดยมีผลประโยชน์ อำนาจต่อรองต่างๆ กับคู่ค้าได้มากขึ้น และการนำเข้า ส่งออกของชาติในอาเซียนทำจะเสรี ยกเว้นสินค้าบางชนิดที่แต่ละประเทศอาจจะขอไว้ไม่ลดภาษีนำเข้า (เรียกว่าสินค้าอ่อนไหว) โดยอาเซียนจะรวมตัวเป็น “ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน” อย่างจริงจังในวันที่ 1 มกราคม 2558 หรืออีก 3 ปีข้างหน้า
และจากผลจากการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 9  ณ เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย ได้กำหนดให้จัดทำข้อตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements : MRAs) ด้านคุณสมบัติในสาขาวิชาชีพหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายนักวิชาชีพ หรือแรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษของอาเซียนได้อย่างเสรี ด้านคุณสมบัติในสาขาอาชีพหลัก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้าย นักวิชาชีพ แรงงานเชี่ยวชาญ หรือผู้มีความสามารถพิเศษได้อย่างเสรีข้อตกลงเรื่องการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือไปทำงานในประเทศกลุ่มอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ ได้อย่างเสรี ได้กำหนดครอบคลุม 7 อาชีพ และก็มีข่าวว่าอาจจะมีการเพิ่มจำนวนอาชีพขึ้นมาอีกในลำดับถัดไป สำหรับ 7 อาชีพที่มีข้อตกลงกันแล้วให้สามารถเคลื่อนย้ายไปทำงานได้อย่างเสรี ได้แก่
  • อาชีพวิศวกร( Engineering Services)
  • อาชีพพยาบาล (Nursing Services)
  • อาชีพสถาปนิก(Architectural Services)
  • อาชีพการสำรวจ (Surveying Qualifications)
  • อาชีพนักบัญชี (Accountancy Services)
  • อาชีพทันตแพทย์ (Dental Practitioners)
  • อาชีพแพทย์ (Medical Practitioners)
และการเคลื่อนย้ายแรงงานฝีมือเสรีในกลุ่ม 7 อาชีพนั้น มีผลดีต่อไทยไม่น้อย เพราะในภาพรวม สถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในไทยมีศักยภาพในด้านการผลิตบุคลากรในสายวิชาชีพทั้ง 7 ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูง ซึ่งทำให้ผู้จบการศึกษาในสายวิชาชีพทั้ง 7 ตั้งแต่ระดับปริญญาตรีจนถึงปริญญาเอกมีตลาดงานที่เปิดกว้างมากขึ้น
จากเดิมที่ตลาดมีแค่การให้บริการประชาชน 63 ล้านคน เป็นตลาดของประชาชนร่วม 600 ล้านคนใน 10 ประเทศอาเซียน นอกจากนั้น ประเทศเหล่านี้รวมทั้งไทยอยู่ในทิศทางที่กำลังเติบโตทางด้านเศรษฐกิจทั้งสิ้น เร็วบ้าง ช้าบ้าง และโดยภาพรวมคุณภาพของผู้จบวิชาชีพทั้ง 7 ในไทยก็สูงอยู่ในระดับแถวหน้าของประเทศอาเซียน ทำให้โอกาสในการหางานมีสูง
ในขณะที่คนไทยสามารถไปทำงานในประเทศอาเซียนได้อย่างเสรีนั้น สภาวิชาชีพ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการดูแลมาตรฐานของอาชีพทั้ง 7 นั้นคงต้องมีการดำเนินการอย่างเข้มแข็งรัดกุมเป็นอย่างมาก เพื่อรักษามาตรฐานของผู้จบวิชาชีพในสาขาอาชีพนั้นๆ ในไทยให้คงเดิม หรือยกระดับให้สูงขึ้นไปอีก ป้องกันมิให้เกิดการอ่อนด้อยในเรื่องมาตรฐานขององค์กรในการผลิตคน บางแห่งที่อาจใช้โอกาสนี้เพิ่มรายได้ในการเร่งผลิตคนในวิชาชีพเหล่านั้นจำนวนมากเพื่อตอบสนองตลาดที่ใหญ่ขึ้น มิฉะนั้นอาจส่งผลกระทบทางลบโดยรวม
อีกปัญหาที่อาจะตามมาอีกอย่างคือ บางวิชาชีพไทยเริ่มจะเข้าสู่วิกฤตการขาดแคลนอาจารย์ เช่น ทันตแพทย์ ถ้าแก้ปัญหาไม่ทันท่วงทีในเวลาอีกสามถึงห้าปีข้างหน้า ไทยจะมีปัญหาเรื่องการสร้างบุคลากรรุ่นใหม่ในสายวิชาชีพทันตแพทย์อย่างแน่นอน ขณะเดียวกัน ก็ต้องระวังดูแลในเรื่องมาตรฐานของคนจากประเทศต่างๆ ในอาเซียนที่เข้ามาประกอบอาชีพทั้ง 7 อาชีพในไทยด้วยเช่นกัน เพราะอาจจะมีผู้มาจากประเทศอื่นที่มาประกอบอาชีพในไทยมีปัญหาความอ่อนด้อยในเรื่องมาตรฐาน ซึ่งถ้าดูแลไม่รอบคอบรัดกุม อาจก่อเกิดผลกระทบกับสังคมไทยในทางลบ และอาจส่งผลต่อปัญหาการประกอบอาชีพของคนไทยเอง
แต่อย่างไรก็ตาม ในภาพรวม สังคมไทยกำลังเข้าสู่ภาวะสังคมผู้สูงอายุ จำนวนคนในวัยทำงานกำลังลดลงอย่างมีนัยสำคัญ มีข้อมูลว่าอีกประมาณสิบปีข้างหน้า สัดส่วนคนในวัยทำงานจะต่ำกว่าประชากรผู้สูงอายุมาก นี่จะทำให้เกิดการขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะแรงงานฝีมือในกลุ่มอาชีพทั้ง 7 นั้น ผู้ที่จบจากสายวิชาชีพดังกล่าวจะประกันได้ว่าไม่น่าจะมีใครที่ตกงาน เพราะมีตลาดใหญ่มากรองรับทั้งในไทย และในประเทศอาเซียน
ข้อตกลงเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีในกลุ่มประเทศอาเซียนทั้ง 7 อาชีพในปี 2015 (2558) แม้จะเป็นโอกาสทองของคนไทยในสายวิชาชีพดังกล่าว แต่ก็มีจุดที่ต้องระวังอยู่ไม่น้อยเช่นกัน ทั้งในด้านการที่คนของเราไปทำงานบ้านเขา และการที่คนบ้านเขามาทำงานในบ้านเรา เพราะถ้าการระวังไม่รัดกุม โอกาสทองนั้นอาจพลิกเป็นวิกฤต และมีผลกระทบรุนแรงต่อบางสายวิชาชีพได้
ยังมีแง่มุมที่น่าสนใจอื่นๆ ในการรวมตัวกันเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ใครสนใจสามารถคลิกเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ใน http://www.thai-aec.com/ หรือhttp://www.facebook.com/thailandaec

ขอบคุณข้อมูลและภาพจาก : 





วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ราศีไหน เหมาะกับอาชีพคุณ







ราศีมังกรCapricorn

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่21 ธันวาคม ถึง 20 มกราคม
          ชาวราศีมกรเป็นคนที่จริงจังกับการทำงานมาก ทุ่มเทไม่ย่อท้อ รักษากฎระเบียบได้เป็นอย่างดี ไม่ค่อยมีอัธยาศัยกับใคร ๆ เวลาทำงาน ดังนั้น งานที่เหมาะสมควรเป็นงานประเภทต้องนั่งทำคนเดียว เช่น กรอกข้อมูลทางคอมพิวเตอร์ นักตรวจสอบ หรือพิสูจน์อักษร นอกจากนี้ยังสามารถประกอบอาชีพด้าน นักปราชญ์ นักกฎหมาย นักเดินทาง นักการเมือง นักการฑูต นักบริหาร นักประพันธ์ นักค้าขายที่ดิน       งานอาชีพในลักษณะที่ต้องลงมือปฏิบัติ งานประจำ หรืองานที่เกี่ยวข้องกับองค์กรใหญ่ ๆ ที่มีโอกาสก้าวไปข้างหน้าจะดึงดูดความสนใจของชาวราศีมกรเป็นอย่างมากเจ้าหน้าที่รัฐ นักการเมือง นักบริหาร ทหารบกครู นักวิทยาศาสตร์ นักคำนวณ แพทย์รักษาโรคกระดูก ไขข้อ หรือแพทย์ศัลยกรรม วิศวกร ผู้รับเหมา คนงานก่อสร้าง


ราศีกุมภ์Aquarius

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่21  มกราคม ถึง 20 กุมภาพันธ์          
     ชาวราศีกุมภ์เป็นคนชอบใช้ความคิด ชอบสร้างแนวคิดในรูปแบบหลากหลาย มีไอเดียแปลก ๆ สนใจงานที่มีลักษณะเป็นงานที่เป็นนายตัวเอง หรือเจ้าของกิจการ หรืองานที่อิสระได้รับอำนาจการตัดสินใจเต็มที่ ชาวราศีกุมภ์ให้ความสนใจกับศาสตร์สมัยใหม่ทุกประเภท อาชีพที่เหมาะสม เช่น นักโหราศาสตร์ นักดาราศาสตร์ นักเขียนนิยาย นักการตลาดคิดว่าโปรโมชั่นอะไรใหม่ ๆ นักเขียน นักพูด นักบรรยายทางวิชาการ นักวิทยาศาสตร์ทำงานด้านวิทยุโทรทัศน์ นักประดิษฐ์ นักบินอวกาศนักวิชาการ อาจารย์ ผู้บุกเบิกด้านผลิตภัณฑ์ใหม่ ผู้คิดค้นสูตรอาหาร นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ ชาวราศีกุมภ์ เป็นผู้มีความทะเยอทะยานในงานอาชีพมากที่สุดราศีหนึ่งเกิดมาเพื่อแสวงหาความสำเร็จ เป็นคนมีความตั้งใจสูง มักเป็นปัจจัยให้พวกเขาได้รับความสำเร็จในหน้าที่การงานด้วยดี   



ราศีมีนPisces

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่21 กุมภาพันธ์ ถึง 20 มีนาคม
        ชาวราศีมีน เป็นคนชอบจินตนาการ มีความเพ้อฝัน มีโลกแห่งจินตนาการ มองโลกสวยงาม อาชีพที่เหมาะสมคือ นักเขียน นักวาดรูป งานศิลปะ งานด้านการบันเทิง งานโฆษณา นักแสดง นักเขียน จิตแพทย์ นักบำบัดจิต หมอดูนักแสดง นักสังคมสงเคราะห์ เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชน อาชีพที่ทำให้ชาวราศีมีนมีความสุขได้แก่งานดูแลผู้อื่น เช่น อาชีพพยาบาลแพทย์ นักบวช เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ทั่วไปชาวราศีมีนจึงไม่ค่อยมีแรงบันดาลใจให้กับการทำงานอาชีพใดเป็นพิเศษงานอาชีพส่วนใหญ่ของชาวราศีมีนที่ทำแล้วจะรุ่งเรือง มักเป็นงานที่คอยช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ที่ทำแล้วเกิดความสบายใจมากกว่าการมุ่งเน้นด้านรายได้เช่น งานอนุรักษ์นิยม งานอาชีพที่เกี่ยวข้องกับท้องทะเล งานด้านประมง นักดำน้ำ นักประดาน้ำ นักเดินเรือ



ราศีเมษAries

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 มีนาคม ถึง 20 เมษายน
           ชาวราศีเมษ เป็นราศีแห่งความกระตือรือร้น สามารถออกแรงผลักดันทั้งกับตันเองและคนรอบข้างได้ดี ความขยันขันแข็ง รักการทำงาน อาชีพที่เหมาะสมกับราศีนี้คือ หัวหน้าคนงาน เจ้านาย ผู้บัญชาการเหล่าทัพต่าง ๆ นักวางแผน วางระบบ นักจัดการงานทุกประเภท นักอำนวยการ นักสำรวจ นักเดินทาง งานที่ท้าทายความสามารถ เช่น นักบริหาร นักออกแบบ นักการเมือง เจ้าของกิจการชาวราศีเมษ รักเกมการแข่งขัน และชอบแสวงหาเรื่องที่จะเอาชนะคู่แข่ง อาชีพที่เหมาะสมคือ นักกีฬาประเภท เบสบอล ฟุตบอล เทนนิสรักการเป็นผู้นำ ให้คนในสังคมยอมรับ จนกลายเป็นแรงผลักดันให้เขาก้าวไปสู่แวดวงผู้นำในระดับต่าง ๆ เช่น นักการเมืองตั้งแต่ระดับท้องถิ่น จนถึงเป็นระดับผู้นำไม่ว่าคนราศีนี้จะเลือกอาชีพใดก็ตาม ผลตอบแทนที่ได้จากงานที่เขาทำต้องมีคนให้การสนับสนุนและยอมรับในผลงานอันยิ่งใหญ่ เขาต้องการเกียรติยศ ชื่อเสียง และการยอมรับจากสังคม



ราศีพฤษภ  Taurus

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21เมษายน ถึง 20พฤษภาคม      
     ชาวราศีพฤษภเป็นคนชอบความมั่นคง ชอบแสวงหาความร่ำรวยในด้านอาชีพการงาน  เข้าใจระบบการเงินได้ดีทั้งการเงินส่วนบุคคลและการเงินในระบบเศรษฐกิจ  อาชีพที่เหมาะสมคือ นายธนาคาร พนักงานที่ทำงานกับธนาคารทุกตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับด้านการเงิน นักวางแผนการเงินและหุ้น นักการตลาด พนักงานขายสินค้าทุกประเภทไม่ว่าจะเป็นการขายในรูประบบบริษัท หรือ ขายตรง พนักงานด้านการบัญชี แม่ค้า พ่อค้า เจ้าของกิจการทุกระดับ สามารถเลือกงานธุรกิจที่เหมาะสมกับตนเอง  ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง นอกจากนี้ยังชอบการทำสวน สามารถเป็นนักออกแบบสวน จัดดอกไม้ ปลูกผักแต่ควรเป็นผักอินทร์ที่ปลอดสารพิษ งานด้านเกษตรกรรม ปศุสัตว์ เลี้ยงสัตว์ในรูปแบบที่มีระบบการจัดการที่ทันสมัย งานด้าน ออกแบบและจัดสวน นอกจากนี้ด้วยความสามารถและความอดทนทำให้ชาวราศีพฤษภสามารถทำงานได้หลายอาชีพ เช่น นักบิน พนักงานต้อนรับบนสายการบิน ทนายความ นักกฎหมาย เจ้าหน้าที่เกี่ยวกับศาลที่ทำงานด้านกฎหมาย ตำรวจ ทหาร พยาบาล นักข่าว



 ราศีมิถุนGemini

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่21พฤษภาคม ถึง 20มิถุนายน
   ชาวราศีมิถุนเป็นคนที่มีสองบุคลิกในตัวเอง สามารถประกอบอาชีพ เป็นนักแสดง ดารา เล่นละคร นักเขียนบทประพันธ์ บทภาพยนต์ ดีเจคลื่นวิทยุ นักร้อง นอกจากนี้เป็นคนเก่ง ฉลาด มีความสามารถหลายด้าน เหมาะที่จะเป็นนักวิชาการ นักหนังสือพิมพ์ สื่อสารมวลชน นักแต่งเพลง นักดนตรี นักพูด นักพากย์ ผู้ประกาศข่าว พิธีกร วิทยากร นักเขียน ครูอาจารย์ ผู้อำนวยการสร้างละคร ผู้นำแห่งโลกศิลปะ สามารถพูดโน้มน้าวคนให้เชื่อมั่นในตัวเอง มีทักษะในการเลือกใช้คำพูดได้ดีเหมาะสมทำงานอาชีพด้านงานขายสินค้า นักการเมือง งานที่เกี่ยวกับการสื่อสารเช่น บรรณาธิการกด้านงานหนังสือ นักข่าว นักเขียน นักแปล ล่าม ครู เจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ ตัวแทนการค้า การส่งออก งานที่ติดต่อกับต่างประเทศ ไกด์ เปิดบริษัททัวร์สำหรับนำเที่ยวในประเทศและต่างประเทศ


 ราศีกรกฎCancer

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่21 มิถุนายน ถึง 20 กรกฎาคม               
    ชาวราศีกรกฎเป็นคนอ่อนไหว รักพวกพ้อง รักความมั่นคง ปลอดภัย และชอบการสะสมฐานะและความร่ำรวย จึงชอบทำงานในบริษัทใหญ่ ๆ ที่มีความมั่นคง และมีเพื่อนมาก ๆ อาจจะประกอบอาชีพที่ต้องทำงานภายในสำนักงาน ในแขนงวิชาชีพต่าง ๆ งานด้านเอกสาร งานติดต่อ งานด้านการประชาสัมพันธ์  นักธุรกิจ เจ้าของกิจการ อาชีพอิสระที่เป็นเจ้าของกิจการขายสินค้าด้านอาหาร เสื้อผ้า เครื่องประดับ ก็สามารถทำได้ และด้วยนิสัยที่เป็นคนความอ่อนไหว เซ้นต์ซิทีฟ ทำให้มีความสามารถในการเข้าใจคนอื่น และเลียนแบบคนอื่นได้ดี เหมาะสมเป็น ดารา นักจิตวิทยา หมอดูจิตแพทย์ นักบำบัดในแขนงต่าง ๆ เช่น นักกายภาพบำบัด นวดแผนไทย พนักงานสปา พนักงานที่ทำงานในร้านเสริมสวย  และร้านทำเล็บ นอกจากนี้ยังสามารถทำงานเกี่ยวกับการโรงแรมในแผนกต่าง ๆ เช่น พนักงานต้อนรับ พนักงานดูแลลูกค้า เป็นต้น งานด้านเกี่ยวกับการดูแลคนป่วยและผู้สูงอายุเช่น พี่เลี้ยงเด็ก พยาบาลดูแลคนแก่ตามบ้าน ก็เหมาะสมกับชาวราศีกรกฎเป็นอย่างมาก
                 


ราศีสิงห์ Leo

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21 กรกฎาคม ถึง 20 สิงหาคม                
      ชาวราศีสิงห์เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง หยิ่ง ชอบวางกฎระเบียบให้กับคน ดังนั้น มักชอบทำงานเป็นหัวหน้า เจ้านาย จึงเหมาะสมกับงานอาชีพด้านการเป็นนักบริหาร เป็นนักคิด นักวางแผน นักเจรจาที่คอยต่อรองผลประโยชน์ นักการเมือง แพทย์ ผู้นำองค์กรในฝ่ายบริหาร นักปกครอง หากท่านใดที่รับราชการ ไม่ว่าจะเป็นทหารบก ทหารอากาศ ทหารเรือ ตำรวจ ดวงชะตาของชาวราศีสิงห์ยิ่งจะเหมาะมากกับอาชีพเหล่านี้ จะประสบความสำเร็จและความรุ่งเรื่องจนได้เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งในระดับสูงสุดของแต่ละองค์กร นอกจากนี้ชาวราศีสิงห์จะมีลักษณะนิสัยที่คอยดูแลบุคคลผู้อยู่ใต้บังคับบัญชาของตนเอง สามารถทำงานด้านนักสังคมสงเคราะห์ นักพิทักษ์สัตว์และสิ่งแวดล้อม หน่วยงานช่วยเหลือระหว่างประเทศ องค์กรอิสระที่เน้นความช่วยเหลือในด้านมนุยธรรม ก็สามารถทำงานอาชีพลักษณะนี้ได้  



ราศีกันย์Virgo


ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่ 21สิงหาคม ถึง 20กันยายน            
      ชาวราศีกันย์ มีลักษณะนิสัยขยัน ชอบการทำงาน มีความละเอียดถี่ถ้วน เก็บข้อมูลและรายละเอียดได้ดี อาชีพที่เหมาะสมเป็นงานด้านการบริการ รับใช้ เช่น งานบริการประชาชน เช่น ตำรวจ ทหารชายแดน เจ้าหน้าที่สำนักงานเขต เจ้าหน้าที่ด้านงานบริการประชาชนทุกแขนง เช่น งานไปรษณีย์ ไฟฟ้า ปะปา ระบบขนส่งมวลชนนอกจากนี้ชาวราศีกันย์ให้ความสำคัญอย่างมากกับด้านสุขอนามัยส่วนตัว จึงควรเน้นงานด้านสุขอนามัย พยาบาล สาธารณสุข กาชาด นักโภชนาการ เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล เป็นต้น ด้วยความที่ชาวราศีกันย์เป็นคนที่มี ความสามารถจดจำเรื่องราวต่าง ๆ เก็บรายละเอียดได้ดี สนใจงานด้านการวิพากษ์วิจารณ์ ดังนั้นอาชีพที่เหมาะสมยังมีกลุ่มอาชีพด้าน นักกฎหมาย นักวิเคราะห์ นักวิจัย นักสถิติ นักบัญชี นักวิทยาศาสตร์ นักตรวจสอบ นักบัญชี
               


 ราศีตุล Libra

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่21 กันยายน ถึง 20 ตุลาคม           
       ชาวราศีตุลเป็นคนมีศิลปะ รักความสวยงาม ความทันสมัย  อาชีพเด่นของชาวราศีตุลได้แก่ งานด้านศิลปะทุกแขนง เช่น นักวาดรูป จิตรกร นักออกแบบ งานตบแต่ง แต่งเพลง เล่นดนตรี กราฟิกดีไซน์ นักร้อง นักดนตรี นักเต้น งานแวดวงบันเทิง อาชีพเกี่ยวกับศิลปะและความงาม ช่างเสริมสวย  ตัวแทนจำหน่ายวัตถุโบราณ จำหน่ายเครื่องประดับอัญมณี นอกจากนี้ชาวราศีตุลเป็นผู้ที่รักความยุติธรรมมากที่สุด อาชีพที่เหมาะสมคือ  ผู้พิพากษา ตำรวจ นักกฎหมาย ทนายความ สิ่งที่ชาวราศีตุลต้องตระหนักและยอมรับก็คือพวกเขาไม่ใช่นักคิดอะไรใหม่ ๆ ได้รวดเร็ว ฉับไว แต่เป็นคนหัวคิดทันสมัย ดังนั้น พวกเขาจำเป็นต้องเรียนรู้คุณค่าของการกระตุ้นตัวเองให้ผลงานเป็นที่ยอมรับ คุณสมบัติอันเยี่ยมยอดที่สุดประการหนึ่งของชาวราศีมกรก็คือการตระหนักในเรื่องความรับผิดชอบและการบริหารเวลาในการทำงาน จะไม่ปล่อยให้เวลาสูญเปล่าแต่ก็ไม่รีบเร่งจนเสียการทำงานได้ดีและเรียบร้อยพวกเขาเป็นนักแก้ปัญหาที่ดีเยี่ยม  



ราศีพิจิก Scorpio

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่21 ตุลาคม ถึง 20พฤศจิกายน           
     ชาวราศีพิจิกจะเสียสละและทุ่มเทให้กับการทำงานของตน เพื่อดิ้นรนไปสู่ความสำเร็จในทุกรูปแบบ พวกเขาชอบการใช้ปัญญา อารมณ์ ความรู้สึก หรือ เซ้นต์ ในการเอาชนะคนอื่น ดังนั้น งานไหนที่ยาก ๆ หรือไม่สำเร็จส่งต่อให้ชาวราศีนี้ไปทำต่อได้เลย รับรองว่าสำเร็จอย่างแน่นอนนอกจากนี้เป็นคนชอบตรวจสอบ หาข้อบกพร่อง ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อประโยชน์ในการเอาชนะคู่แข่ง งานที่เหมาะสมเป็นผู้ตรวจสอบงานด้านระบบเช่น งานบัญชี ผู้ตรวจสอบระบบประกันคุณภาพในโรงงานอุตสาหกรรม ชาวราศี พิจิกชอบศึกษาค้นคว้า หาความรู้ ด้านสิ่งลี้ลับ ประวัติศาสตร์ ปรัชญา งานที่เหมาะสมคือ นักประวัติศาสตร์ นักปรัชญา นักวิชาการ อาจารย์ ร่างทรง หมอดู นักโหราศาสตร์นักสืบ สายลับ นักแต่งบทประพันธ์นอกจากนี้ยังเป็นคนที่เสียสละ ทุ่มเทในการทำงาน สติปัญญาฉลาด ลึกล้ำ ไม่หวั่นต่อความยากลำบาก งานที่เหมาะสม แพทย์ และ พยาบาล ทุกสาขา ด้วยลักษณะการเคลื่อนไหวร่างกายรวดเร็ว แม้ว่าท่าเดินจะชักช้า ทำให้ได้เปรียบในการเล่นกีฬา เหมาะเป็นนักกีฬาด้วยเช่นกัน



ราศีธนูSagittarius

ผู้ที่เกิดระหว่างวันที่21 พฤศจิกายน ถึง 20 ธันวาคม
  ชาวราศีธนูเป็นคนมองการณ์ไกล ตั้งเป้าหมายในอนาคตเพื่อให้ตนเองประสบความสำเร็จ มีวิสัยทัศน์ อาชีพที่เหมาะสม คือ เจ้าของกิจการ อาจารย์ที่สอนเฉพาะสาขาวิชา ทนายความ นักกฎหมาย ผู้พิพากษา อัยการ ตำรวจ  นอกจากนี้ยังมีพรสวรรค์ในการเลือกใช้คำพูดในการโน้มน้าวใจคน เหมาะเป็นพนักงานขาย งานเขียน งานประพันธ์ นักแต่งเพลง แต่ลักษณะผลงานของชาวราศีธนูออกมาจะแสดงถึงแนวคิดอันกว้างไกล หรือด้านปรัชญาจนยากที่คนทั่วไปจะเข้าใจได้ทันที ดังนั้นต้องอาศัยเวลาผลงานต่าง ๆ จึงจะกลับมาสร้างชื่อเสียงให้กับตนเองชาวราศีธนูยังเป็นนักคิด นักปรัชญา เหมาะสมเป็นนักบวช ผู้สอนศาสนา นักมนุษยธรรม มีความคิดลึกซึ้งด้านศาสนาและปรัชญาชอบการพนัน การเสี่ยงโชค จึงเหมาะเป็นนักธุรกิจ นักลงทุนรักการเดินทาง ท่องเที่ยว เหมาะสมเป็นนักเขียนด้านการท่องเที่ยว นักสำรวจยังสามารถประกอบอาชีพเน้นการสอน การท่องเที่ยว เช่น ไกด์ อาจารย์ นักปรัชญาและศาสนา นักการศึกษาผู้ออกนโยบาย




วันศุกร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

อาชีพฮอตฮิต เรียนแล้วไม่ตกงาน

การบัญชี 

        เนื่องจากการทำธุรกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารธุรกิจ การจัดการ การประกอบกิจการไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ก็ต้องใช้บุคลากรทางด้านบัญชีทั้งสิ้น นอกจากนี้ หากธุรกิจมีนโยบายดีเท่าใดแต่ก้นถุงรั่ว หรือไม่มีการคิดเรื่องความคุ้มทุน ค่าใช้จ่าย ก็จบ
       

แพทยศาสตร์ , พยาบาลศาสตร์

        สำหรับแพทย์นั้นถือว่ามีการขาดแคลนบุคลากร แต่คนที่จะเรียนได้ต้องมีสติปัญญาที่ดี และต้องมีค่าใช้จ่ายในการเรียนที่สูงถ้าไม่ได้ทุนรัฐบาลซึ่งแพทย์และพยาบาลอยู่ในอันดับทอปเท็นตลอด


การตลาด , บริหารธุรกิจ  

        ส่วนการตลาดหรือบริหารจริงๆ แล้วต้องยอมรับว่า ความต้องการด้านบุคลากรด้านการตลาดมีมาก แม้กระทั่ง มหาวิทยาลัยยังต้องมีฝ่ายการตลาดของตัวเองเพราะยุคของการแข่งขันมีมากขึ้น
       

คอมพิวเตอร์

        ด้านคอมพิวเตอร์ ปัจจุบันเนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีมากขึ้นทำให้ต้องอาศัยคนกลุ่มนี้ 

วิศวกรรมศาสตร์ 



นิติศาสตร์ , รัฐศาสตร์

        สำหรับนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ ด้วยความที่โลกอยู่ในยุคของการแข่งขัน การแย่งชิงทรัพยากรที่มีจำนวนจำกัด เรื่องของกฎหมาย การปกครองเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่สำคัญ
       
        โดยหากเปรียบเทียบผลวิจัยระหว่างปีที่ผ่านมากับปีนี้เห็นการเปลี่ยนแปลง คือ นิติศาสตร์ และรัฐศาสตร์เดิมอยู่ต่ำกว่าทอปเท็น แต่ที่สามารถก้าวขึ้นอันดับทอปเท็นได้เชื่อว่าเป็นเพราะปัจจุบันเกิดกรณีความขัดแย้งที่ต้องอาศัยด้านกฎหมายมากขึ้น ในขณะที่ปีที่แล้วการเรียนสาขาสิ่งแวดล้อมมีความชัดเจนมากขึ้นก็ติดอยู่ในอันดับ

การจัดการ

อัพเดทเทรนด์อาชีพในปีนี้กันหน่อยค่ะ


1. นักสื่อสารและงานผูกมิตร

หรือที่รู้จักกันดีว่าเป็นงานด้านสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ อาชีพนี้ยังคงติดอันดับหนึ่งในสิบของวิชาชีพที่คนรุ่นใหม่ใฝ่ฝันอยากเป็น ไม่ว่าจะเป็นนักข่าว นักเขียน หรือนักประชาสัมพันธ์ ล้วนเป็นอาชีพที่ต้องทำงานด้านข่าวสาร ความเคลื่อนไหวเพื่อกระจายไปสู่คนหมู่มาก
งานเหล่านี้จึงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น สนุกสนาน เรียกว่าไม่ซ้ำซากจำเจกับงานรูปแบบเดิมๆ เหมือนทุกวัน เราจึงไม่แปลกใจที่งานด้านสื่อสารมวลชนและการประชาสัมพันธ์ต่างเป็นที่หมาย ปองของคนทั่วไป ชนิดที่ว่าเปิดรับสมัครเมื่อไหร่เป็นเต็มทันใจทุกทีค่ะ

2. หัวใจบริการคืองานของเรา

แม้ว่าทุกวันนี้งานบริการบนฟ้าอย่างการเป็นแอร์โฮสเตสและสจ๊วตยังคงมีหนุ่ม สาวรุ่นใหม่ส่งใบสมัครกันไม่ขาดสาย แต่งานบริการก็ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงแค่ งานรูปแบบเดิมๆ โดยเฉพาะงานบริการด้านอาหาร อย่างการจัด Catering งานจัดเลี้ยงนอกสถานที่ ซึ่งตอนนี้กำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในกลุ่มลูกค้าเอเยนซี่โฆษณา ออร์แกไนเซอร์ ไปจนถึงงานเลี้ยงส่วนตัว เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
งานบริการรูปแบบนี้ถือเป็นอีกหนึ่งงานที่สนุก และท้าทาย ยิ่งเรื่องของอาหารด้วยแล้ว หากคุณมีความรู้ และรู้จักที่จะดัดแปลงให้แปลกตา น่ามอง และน่าชิม รับรองว่า งานบริการอย่าง Catering จะสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับคุณเลยทีเดียวค่ะ

3. นักกิจกรรม สร้างสรรค์งานเก๋

นักจัดอีเวนท์ เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากของคนยุคนี้ ทั้งในรูปแบบของบริษัทออร์แกไนเซอร์ รับจ้างจัดงานเปิดตัวสินค้า สถานที่ต่างๆ หรือจะเป็นในลักษณะของฟรีแลนซ์ รับวางแผนงานสร้างสรรค์ไอเดีย เก๋ๆ ไปจนถึงขั้นตอนการเตรียมงาน และความพร้อมต่างๆ จนกระทั่งนับถอยหลัง 5 4 3 2 1 กันเลย และรูปแบบการจัดงานก็มีหลากหลาย ตั้งแต่งานการตลาดไปจนถึงงานวิวาห์ และปาร์ตี้วันเกิด รูปแบบของงานประเภทนี้จึงเน้นไปในเรื่องของความคิดที่แปลกใหม่ และการทำงานที่ต้องแข่งขันกับเวลาและความทันสมัย ใครรู้ตัวว่ามีไอเดียกระฉูด และสามารถทำให้มันเกิดขึ้นได้จริงๆ ลองพิจารณาสาขาอาชีพนี้ดูหน่อยดีมั้ยคะ

4. เนรมิตงานสวย ผ่านการดีไซน์

ใครรู้ตัวว่าเป็นคนช่างดีไซน์ รู้จักดัดแปลง สร้างสรรค์สิ่งของธรรมดาให้เป็นงานสวย ฝีมือดีได้ การมีอาชีพเป็นนักออกแบบถือเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมเช่นกัน โดยเฉพาะงานออกแบบอัญมณี เครื่องประดับทั้งหลายที่เป็นของสวยงาม จัดได้ว่าเป็นความฝันอย่างหนึ่งของสาวๆ เลยก็ว่าได้
สำหรับอาชีพนักออกแบบ นอกจากต้องมีคุณสมบัติสร้างสรรค์งานได้เป็นอย่างดีแล้ว อีกอย่างหนึ่งที่สำคัญคือต้องมีความอดทน และมีสไตล์ของตัวเองที่ชัดเจน สิ่งนี้จะทำให้งานออกแบบของคุณมีความแตกต่างจากท้องตลาดในปัจจุบันค่ะ

5. งานไอที เพื่อชีวิตทันสมัย

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่สนใจไอที คงต้องบอกว่าเอาต์สุดๆ ในพ.ศ.นี้กันเลย แต่ถ้าคุณสนใจถึงขนาดที่ว่านำความรู้เหล่านั้นมาประกอบเป็นอาชีพได้ละก็ คุณก็โชคดีไม่น้อยทีเดียว เพราะยุคนี้ทุกสิ่งรอบตัวต่างดำเนินไปด้วยระบบดิจิตอลไปเสียหมด ดังนั้น อาชีพอย่างการเป็นโปรแกรมเมอร์ นักวิเคราะห์ระบบ นักจัดการวางแผนงานด้านคอมพิวเตอร์ เหล่านี้จึงเป็นหนทางที่จะสร้างรายได้ที่ดีให้กับคุณ แถมยังดูอินเทรนด์เป็นหนุ่มสาวสมัยใหม่ที่น่าจับตามองอีกด้วย เพราะฉะนั้นใครรู้ตัวว่ามีหัวด้านไอทีก็อย่ารีรอ เร่งหาความรู้เพิ่มเติมแล้วร่อนใบสมัครอัพเกรดชีวิตด่วน
6. ช่างพูดช่างคุย ลุยงานการตลาด
อาชีพนักขายและนักการตลาด ยังคงเป็นอาชีพฮอตฮิตในใจคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่อยู่เสมอ เพราะนอกจากรายได้ที่ดีเสียจนใครๆ ต้องอิจฉา เรื่องของลักษณะงานยังน่าสนใจไม่น้อย เรียกว่าสนุก เร้าใจ ยิ่งใครชอบการทำงานภายใต้ความกดดันจากคู่แข่ง งานนี้เหมาะกับคุณเลยค่ะ
บุคลิกภาพที่โดดเด่นของคนทำงานด้านนี้ต้องเป็นคนที่หน้าตาดี เรียกว่าเห็นแล้วต้องน่าคุยด้วย มีความฉลาด ไหวพริบเป็นเลิศ ช่างเจรจา และยังต้องทำงานอย่างหนัก ขยันในการติดต่อประสานงาน เหล่านี้คือการทำงานอย่างหนัก แต่ก็แลกมาด้วยรายได้ที่งดงามเสมอ เอาเป็นว่า คุณสมบัติที่ว่ามา หากตรงกับคุณมากกว่า 2 อย่างก็ลองเบนเข็มชีวิตมาลิ้มลองงานขายดูสักหน่อยก็ไม่เลวนะคะ

7. งานโฆษณา ลูกบ้าเต็มเหนี่ยว

การเป็นนักโฆษณาที่ดีและจะสามารถก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็ว ต้องอาศัยความกล้า บ้าบิ่น โดยเฉพาะความบ้าทางด้านความคิด อย่างที่ใครๆ มักบอกให้คิดต่าง หรือคิดในมุมกลับกัน คนในแวดวงโฆษณามักมียีนชนิดนี้แฝงอยู่เสมอ เด็กจบใหม่จำนวนมากใฝ่ฝันอยากทำงานด้านนี้ ด้วยความเชื่อที่ว่าความคิดต่างๆ ที่พวกเขาไม่ได้รับการยอมรับก่อนหน้านี้ สังคมอาจเปิดโอกาสให้พวกเขาบ้าง
และเชื่อมั้ยคะว่า … นักโฆษณาหลายคนต่างต่อยอดให้ตัวเองจนกลายเป็นผู้กำกับดังมาแล้วหลายคน เพราะฉะนั้นถ้าเชื่อในลูกบ้าของตัวเองว่ามีเพียงพอแล้วละก็ ลองหันมามองอาชีพที่เราคุ้นเคยกันดีอย่างนักโฆษณา แล้วคุณจะรู้ว่า อิสระทางความคิดสนุกแค่ไหน

8. เป็นนายตัวเอง เวิร์กสุดๆ
ใครจะเถียงบ้างว่า ไม่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง เราเชื่อว่า ความฝันลึกๆ ในใจทุกคนคือการได้ทำงานให้ตัวเอง เพื่อตัวเองจริงๆ ปัจจุบันเราจึงเห็นคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่เริ่มต้นเป็นเจ้าของธุรกิจตั้งแต่อายุ ยังน้อยๆ หลายคนโอกาสดีเพราะฐานะทางการเงินเอื้ออำนวย แต่ก็มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่อาศัยความกล้าได้กล้าเสีย ยอมลงทุนเงินก้อนที่เก็บหอมรอมริบมานาน เพื่อให้ธุรกิจที่รักเริ่มต้นขึ้นได้
คุณสมบัติใหญ่ของคนที่อยากทำอาชีพนี้ให้สำเร็จคือต้องมีความรู้ในสิ่งที่ตัว เองทำให้มากที่สุด และที่ขาดไม่ได้เลยคือความขยัน อดทนมากกว่าการเป็นลูกน้องคนอื่น แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การทำอาชีพเป็นเจ้านายตัวเองก็ได้รับความนิยมและมีคนจำนวนไม่น้อยยอมเสี่ยง เอาเงินเก็บทั้งชีวิตที่มี เพื่ออาชีพที่เรียกกันว่า ‘เจ้าของธุรกิจส่วนตัว’


9. เก่งเฉพาะด้าน งานรายได้ดี

ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง เป็นชื่อเรียกสำหรับอาชีพที่คนทั่วไปจะมาร่อนใบสมัครกันง่ายๆ ไม่ได้นะคะ อย่างแรกและสำคัญที่สุดคือคุณต้องเรียนวิชาชีพเหล่านี้มาโดยตรงและมีความรู้ เป็นอย่างดีเสียก่อน จึงจะสามารถ ทำงานได้ เพราะงานประเภทนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก เช่น แพทย์ พยาบาล ทนายความ วิศวกร นักบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งแพทย์ คุณต้องรับผิดชอบชีวิตและความปลอดภัยของคน เพราะฉะนั้นอาชีพนี้แม้จะรายได้ดี (ตลอดกาล) แต่ก็มีความเสี่ยงสูงกว่าคนอาชีพอื่นเช่นกัน
คนส่วนใหญ่ที่ทำงานด้านนี้มักจะมีความชัดเจนมาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม เพราะการเรียนในระดับปริญญาจะต้องมีการปูพื้นความรู้อย่างเต็มที่เสียก่อน และถ้าคุณอ่านมาถึงบรรทัดนี้แล้วอยากจะทำอาชีพเหล่านี้ดูบ้าง คงต้องบอกว่าสายไปเสียแล้วค่ะ แต่เอาเป็นว่า อาชีพเชี่ยวชาญเฉพาะทางแบบนี้ มักจะไม่เคยตกอันดับ 10 อาชีพสุดฮอตตลอดกาลของคนบนโลกใบนี้แน่นอนค่ะ


10. ฟรีแลนซ์ รูปแบบชีวิตอิสระ

ขาดไม่ได้แน่นอนกับอาชีพที่อินเทรนด์สุดๆ ของคนยุคปัจจุบัน กับการทำงานแบบอิสระ ไม่ขึ้นกับใคร งานที่ต้องรับจ้างเป็นชิ้นๆ หรือที่เรียกกันถนัดปากว่า ฟรีแลนซ์ แรกๆ เราจะรู้จักอาชีพนี้จากคนทำงานในแวดวงแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นช่างทำผม, เมกอัพอาร์ติสท์, ช่างภาพ และไม่นานกลุ่ม  นักเขียนที่รับจ้างเขียนงานให้กับสำนักพิมพ์ต่างๆ ก็มีจำนวนมาขึ้น
จนกระทั่งฟรีแลนซ์ได้ แพร่กระจายไปสู่ทุกกลุ่มงาน ไม่ว่าจะเป็น สถาปนิก, นักออกแบบ, ประชาสัมพันธ์, นักโฆษณา, ขายสินค้าบนเว็บไซต์ แม้กระทั่งนักพยากรณ์ ฟรีแลนซ์จึงเป็นอีกอาชีพหนึ่งที่ได้รับความนิยมอย่างมากจากคนในสังคมไทยตอน นี้แม้รายได้ของพวกเขาจะขึ้นอยู่กับปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง แต่อิสระจากการทำงาน และชีวิตที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้แรงกดดัน ถือเป็นความสุขที่มากเกินพอสำหรับคนอาชีพนี้ค่ะ
ข้อมูลและภาพประกอบจาก